โครงการจ้างวิศวะกรที่ปรึกษาสำรวจและออกแบบปรับปรุงและแก้ไขปัญหาจราจร

บนทางหลวงหมายเลข 121 ตอน ดอนแก้ว - เหมืองกุง

รายละเอียดรูปแบบโครงการ

การแก้ปัญหาจราจรของโครงการนี้ ควรพิจารณาในหลายมิติ เช่น มิติของสภาพปัญหาจราจร มิติของข้อจำกัดทางกายภาพ มิติของความต่อเนื่อง มิติของการเชื่อมโยงกับโครงข่ายถนน มิติของความเป็นไปได้ในการใช้พื้นที่ มิติของการแบ่งช่วง และมิติของการยอมรับจากผู้เกี่ยวข้อง เป็นต้น พร้อมกันนั้นต้องหารูปแบบทางเลือกที่มีความเป็นไป ได้จริง และตอบสนองต่อการแก้ปัญหาในมิติต่างๆ ได้อย่างรอบด้านมากที่สุด แล้วนํามาวิเคราะห์ว่าหากแก้ปัญหาแต่ละมิติ แต่ละทางแยก แต่ละช่วงด้วยวิธีการต่างๆ ตัวอย่างของแนวคิดในการแก้ไขปัญหา มีดังนี้

แนวเส้นทางโครงการจากจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดโครงการมีทางแยกสําคัญ 14 จุด เป็นทางแยกสัญญาณไฟ ทั้งหมด 12 จุด มีทางแยก 3 คู่ (6 จุด) ที่มีระยะห่างระหว่างทางแยกน้อยเพียง 500-550 เมตร ซึ่งอาจจําเป็นต้องมีการพิจารณาปิดทางแยกบางจุดและปรับปรุงทางแยกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางบนแนวเส้นทางโครงการ สําหรับทางแยก

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่โครงการเป็นพื้นที่ชุมชนหนาแน่นและมีแนวคลองชลประทานที่มีความสําคัญมากต่อพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ขนานกับแนวเส้นทางตลอดทั้งแนว ดังนั้น ในการพิจารณาออกแบบปรับปรุงทางแยกจะต้องพิจารณาใหม่ มีผลกระทบด้านการโยกย้ายเวนคืนและผลกระทบต่อคลองชลประทานน้อยที่สุด อีกทั้งแนวเส้นทางโครงการเป็นทางเลี่ยงเมืองฝั่งตะวันตกซึ่งกั้นระหว่างพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่กับดอยสุเทพ ซึ่งเป็นภูเขาที่มีความสําคัญทั้งในด้านความเชื่อ และประวัติศาสตร์ของจังหวัดเชียงใหม่ ดังนั้น ในการกําหนดรูปแบบจะหลีกเลี่ยงรูปแบบที่มีการบดบังทัศนียภาพของดอยสุเทพให้มากที่สุด เพื่อลดผลกระทบด้านจิตใจของประชาชนในพื้นที่โครงการ โดยที่ปรึกษาเสนอรูปแบบเบื้องต้น ดังนี้

1. กรณีเป็นการปรับปรุงทางแยกที่วิเคราะห์ผลด้านจราจรแล้วพบว่าไม่มีความจําเป็นต้องพัฒนาเป็นทางแยกต่างระดับ (Grade Separate Intersection) อาจพิจารณาออกแบบขยายช่องจราจรปรับปรุงทางแยก และปรับปรุงสัญญาณไฟ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของทางแยกให้สอดคล้องกับผลการคาดการณ์ปริมาณจราจรในอนาคต

2. กรณีเป็นการปรับปรุงทางแยกที่วิเคราะห์ผลด้านจราจรแล้วพบว่าจําเป็นต้องออกแบบเป็นทางแยกต่างระดับ (Grade Separate Intersection) อาจพิจารณาออกแบบเป็นทางลอด (Underpass) เพื่อลดผลกระทบด้านทัศนียภาพ โดยเป็นทางลอดขนานคลองชลประทาน ทิศทางละ 2 ช่องจราจร หรือทางลอดบนทางสายรอง เพื่อให้ปริมาณจราจรบนทางหลวงหมายเลข 121 สามารถเดินทางได้อย่างต่อเนื่อง ทิศทางอื่นเป็นทางแยกสัญญาณไฟ

ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจําเป็นที่จะต้องคัดเลือกทางแยกที่มีความจําเป็นต้องปรับปรุงเป็นทางแยกต่างระดับ (Grade Separate Intersection) และกําหนดรูปแบบที่มีความเป็นไปได้ ดําเนินการเปรียบเทียบโดยการให้คะแนนตาม ปัจจัยหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ด้านวิศวกรรมและจราจร ด้านเศรษฐกิจและการลงทุนและด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ได้รูปแบบที่มีความเหมาะสมที่สุดต่อไป